กมธ.ต่างประเทศ ยันคนไทยไม่ได้รับผลกระทบประท้วงเขมร ​​​คาดศาลโลกวินิจฉัยให้ไทย-เขมรตกลงกันเองปมแผนที่พระวิหาร

น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การต่างประเทศ  สภาผู้แทนราษฎร ​แถลงภายหลังการประชุมกมธ.ว่า ที่ประชุมพิจารณาศึกษาสถานการณ์การประท้วงผลการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา และผลกระทบที่จะมีต่อประเทศไทย  ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า จากการตรวจสอบ ไม่มีคนไทยหรือธุรกิจของคนไทยได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้

นอกจากนี้ กมธ.ยังได้พิจารณาศึกษาถึงแนวโน้มคำพิพากษาของศาลโลกต่อกรณีการตีความคดี ปราสาทพระวิหารและการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลคำพิพากษา ที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ว่า เชื่อว่าจะมีแนวทางออกมา 4 แนวทาง คือ  1. ให้กลับไปใช้แผนที่ตามกัมพูชาสัดส่วน 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งเท่ากับว่าพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของประเทศกัมพูชา 2. เป็นไปตามมติครม.ของฝ่ายไทย ซึ่งเชื่อว่าค่อนข้างเป็นไปได้ยาก 3. ออกมาในแนวทางกลางโดยให้ทั้ง 2 ฝ่ายยื่นข้อมูลเพิ่มเติม 4. ให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจาตกลงกันว่าจะใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน หรือ มติครม.ของประเทศไทย

น.ส.จารุพรรณ กล่าวว่า ​​เชื่อว่าแนวทางที่ 4 จะเป็นไปได้มากที่สุด และมั่นใจว่าการเจรจาน่าจะมีประโยชน์มากที่สุดเพราะประเทศไทยมีบุญคุณกับ กัมพูชาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการให้เงินช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือการ์ตูนเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องคดี ประสาทพระวิหาร เพื่อให้สามารถอ่านเข้าใจได้ง่าย โดยจะได้มีการแจกให้ผู้ที่สนใจต่อไปด้วย

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…

สถานการณ์ธุรกิจขายคอนโด

ขณะนี้มีสัญญาณฟองสบู่เกิดขึ้นจริง กับกลุ่มธุรกิจขายคอนโดมิเนียมบางทำเลที่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งสถานการณ์ยังไม่รุนแรงมากจนทำให้เกิดปัญหาใหญ่เหมือนในอดีต โดยสังเกตจากการขายใบจองจำนวนมาก แต่ยอดโอนคอนโดปัจจุบันเริ่มชะลอตัวลงบ้าง ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการที่มีแผนจะสร้างคอนโดมิเนียมเช่นกัน จึงต้องใช้ความระมัดระวัง และเริ่มติดตามปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เมื่อคุณตั้งใจที่จะซื้อขายคอนโดแล้ว อย่าลืมออมเงินสำหรับเป้าหมายทางการเงินนี้ด้วย โดยการจัดสรรเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่จะต้องจ่ายก่อนในปีแรก และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาห้องพักที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการอยู่อย่างมีความสุขในบ้านหลังใหม่

โดยต้องมีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน คุณควรมีเงินออมที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายนาน 3-6 เดือน ก่อนที่จะเป็นเจ้าของขายคอนโด เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วยรุนแรง การเลิกจ้าง หรือแม้แต่เกิดอุบัติภัยต่างๆที่ทำให้คุณไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ คุณยังมีเงินรองรับ ช่วยให้การชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย สามารถเดินต่อไปได้โดยไม่สะดุด และสามารถผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้ สำหรับประวัติเครดิตไม่มีปัญหาโดยทั่วไปสถาบันการเงินก่อนที่จะทำการปล่อยกู้จะมีระบบตรวจสอบที่เรียกว่าเครดิตบูโรสกอร์

ซึ่งประเมินจากประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า หากมีประวัติที่ดีมาตลอดก็จะทำให้ท่านได้คะแนน CB Score ออกมาดี ผลก็คือสถาบันการเงินอยากได้คุณเป็นลูกค้า เพราะโอกาสเป็นหนี้เสียในอนาคตต่ำ ซึ่งสามารถควบคุมหนี้ของตนเองได้ ก่อนที่จะขายคอนโดคุณควรที่ประเมินภาระหนี้สินตนเองเสียก่อนเพื่อประโยชน์ต่อตัวคุณเอง และเพื่อให้การขอกู้เงินกับธนาคารเป็นไปอย่างราบรื่น โดยปกติภาระผ่อนหนี้ในแต่ละเดือนรวมแล้วต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ ซึ่งรวมถึงหนี้สินอื่นๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อการศึกษา หนี้ผ่อนซื้อรถยนต์