ขณะนี้มีสัญญาณฟองสบู่เกิดขึ้นจริง กับกลุ่มธุรกิจขายคอนโดมิเนียมบางทำเลที่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งสถานการณ์ยังไม่รุนแรงมากจนทำให้เกิดปัญหาใหญ่เหมือนในอดีต โดยสังเกตจากการขายใบจองจำนวนมาก แต่ยอดโอนคอนโดปัจจุบันเริ่มชะลอตัวลงบ้าง ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการที่มีแผนจะสร้างคอนโดมิเนียมเช่นกัน จึงต้องใช้ความระมัดระวัง และเริ่มติดตามปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เมื่อคุณตั้งใจที่จะซื้อขายคอนโดแล้ว อย่าลืมออมเงินสำหรับเป้าหมายทางการเงินนี้ด้วย โดยการจัดสรรเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่จะต้องจ่ายก่อนในปีแรก และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาห้องพักที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการอยู่อย่างมีความสุขในบ้านหลังใหม่
โดยต้องมีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน คุณควรมีเงินออมที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายนาน 3-6 เดือน ก่อนที่จะเป็นเจ้าของขายคอนโด เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วยรุนแรง การเลิกจ้าง หรือแม้แต่เกิดอุบัติภัยต่างๆที่ทำให้คุณไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ คุณยังมีเงินรองรับ ช่วยให้การชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย สามารถเดินต่อไปได้โดยไม่สะดุด และสามารถผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้ สำหรับประวัติเครดิตไม่มีปัญหาโดยทั่วไปสถาบันการเงินก่อนที่จะทำการปล่อยกู้จะมีระบบตรวจสอบที่เรียกว่าเครดิตบูโรสกอร์
ซึ่งประเมินจากประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า หากมีประวัติที่ดีมาตลอดก็จะทำให้ท่านได้คะแนน CB Score ออกมาดี ผลก็คือสถาบันการเงินอยากได้คุณเป็นลูกค้า เพราะโอกาสเป็นหนี้เสียในอนาคตต่ำ ซึ่งสามารถควบคุมหนี้ของตนเองได้ ก่อนที่จะขายคอนโดคุณควรที่ประเมินภาระหนี้สินตนเองเสียก่อนเพื่อประโยชน์ต่อตัวคุณเอง และเพื่อให้การขอกู้เงินกับธนาคารเป็นไปอย่างราบรื่น โดยปกติภาระผ่อนหนี้ในแต่ละเดือนรวมแล้วต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ ซึ่งรวมถึงหนี้สินอื่นๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อการศึกษา หนี้ผ่อนซื้อรถยนต์