เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดนัดชุมนุมศาลากลางจ.พะเยา ยื่น4ข้อเสนอให้รัฐ จี้ประกันราคา-โอนเงินค่ารับซื้อให้เกษตรกรโดยตรง

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายคำมูล อินถา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ออย อ.ปง จ.พะเยา ในฐานะประธานสภาเกษตรกร ต.ออย กล่าวว่า จากประชุมแกนนำและตัวแทนเกษตรกรชาวสวนข้าวโพดได้สรุปว่าจะนัดรวมตัวไปพบผู้ ว่าราชการจังหวัดพะเยา ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา ในวันที่ 30 ก.ย.โดยจะมีการยื่นข้อเสนอถึงรัฐบาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรชาวสวน ข้าวโพดอย่างเร่งด่วน จำนวน 4 ข้อ คือ 1.ขอให้รัฐบาลประกันราคาข้าวโพดของเกษตรกรที่ความชื้นไม่เกินร้อยละ 30 กก.ละ 7 บาท 2.ให้รัฐบาลโอนเงินค่ารับซื้อข้าวโพดในราคาประกันให้แก่เกษตรกรโดยตรง ไม่ผ่านไซโลหรือผู้ประกอบการ 3.รัฐบาลจะต้องรับซื้อและช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดทั้งในที่ดินที่มี และไม่มีเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดโดยไม่เลือกปฏิบัติ และ 4. รัฐบาลจะต้องเร่งสำรวจออกหนังสือรับรองสิทธิทำกินให้เกษตรกรที่ไม่มีเอกสาร สิทธิ

ทั้งนี้คาดว่าจะมีเกษตรกรชาวสวนข้าวโพดไปร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 1,000 คน จากทั่วจังหวัดพะเยา ซึ่งกลุ่มแกนนำหรือผู้ประสานงานการชุมนุมครั้งนี้มีข้อห้ามแจ้งถึงผู้ร่วม ชุมนุมทุกคนอย่างเคร่งครัด คือ 1.ห้ามนำเหล้า หรือเครื่องดื่มมึนเมาเข้าไปในการชุมนุมและห้ามผู้ชุมนุมดื่มของมึนเมา และ 2.ห้ามทำการปิดถนน โดยเน้นการชุมนุมจะต้องดำเนินไปด้วยมีสติและสันติ

“หากไม่ได้รับคำตอบภายในหนึ่งวันคาดว่าอาจจะมีการปักหลักพักแรมค้างคืน หน้าศาลากลางจนกว่ารัฐบาลจะให้คำตอบในการช่วยเหลือประชาชนตามเงื่อนไข”นายคำ มูลกล่าว

นอกจากนี้จังหวัดพะเยาได้ส่งตัวแทนเกษตรกรร่วมดินทางกับตัวแทน เกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย และอีกหลายจังหวัดที่เดือดร้อน เดินทางเข้าไปที่กรุงเทพ ฯ เพื่อขอพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนข้าวโพดอย่างเร่งด่วน เนื่องจากที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวน ข้าวโพดเพียงในหลักการเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…

การกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อมากขึ้นในรูปแบบโปรโมชั่น

ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าซื้อสินค้าโปรโมชั่นให้ไวที่สุด ในกรณีที่ซื้อขายในอินเทอร์เน็ตเราคงทำอะไรมากไม่ได้ เพราะลูกค้าจะเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมด แต่การซื้อขายที่ได้ยินเสียง-เห็นหน้า เราสามารถดึงเทคนิคการปิดการขายมาใช้ได้อย่างดี เพราะการได้เห็นหน้า-น้ำเสียง จะทำให้เรารู้ความต้องการของเขาว่าอยากได้แค่ไหนและเราสามารถยื่นข้อเสนอเพื่อต่อรองได้แค่ไหน ซึ่งร้อยทั้งร้อยได้ยินแม่ค้าตื้อมากๆ เข้า ก็หลงคารมซื้อไปเลยก็มี เช่น การให้คำชมคำชมและคำยอเป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยินมากที่สุด เพราะการเลือกสินค้าบางประเภท เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ

ผู้ซื้อก็ย่อมต้องการความคิดเห็น ถ้าบอกว่าไม่สวยก็จะไม่ซื้อ แต่ถ้าได้คำชมเข้าไป แรงบันดาลใจต่อสินค้าโปรโมชั่นนั้นก็จะเกิด และซื้อไปในที่สุด ยังไงก็ตามการให้คำชื่นชมก็ควรให้ด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ว่าจะขายของอย่างเดียว เช่น ลูกค้าที่มีรูปร่างอ้วนเข้ามาจะลองเสื้อที่มีขนาดตัวเล็กมองด้วยตาก็รู้ว่าเล็กกว่า แต่อยากขายก็พยายามบอกว่าใส่ได้แน่นอน แบบนี้แทนที่จะได้ผลดีอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ ส่วนของแถม/ส่วนลด ได้ผลดีเสมอ อะไรที่พอจะแถมให้ได้แลกกับการจ่ายเงินซื้อสินค้า แม่ค้าก็ควรจะยอมแลก เพราะการลด แลก แจก แถม จะกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อมากขึ้น

เพราะมีของฟรีมาเป็นตัวชักจูงใจ เรียกว่าแค่ได้ยินก็ตาลุกวาว ต่อมความคุ้มค่าทำงานมากกว่าปกติ การบอกให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกเสียดายสินค้านั้น เช่น บอกกับลูกค้าว่าสินค้าตัวนี้เหลือตัวสุดท้ายแล้วนะ หมดแล้วหมดเลย หรือสินค้าตัวนี้ขายดีมาก หลายคนใช้แล้วบอกว่าสุดยอด หรือวันนี้ลดราคาโปรโมชั่นเป็นวันสุดท้ายแล้ว เป็นต้น การพูดแนวๆนี้จะทำให้ลูกค้าไขว้เขว เสียดาย แล้วรู้สึกว่าควรได้สินค้านี้มาครอบครอง