นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุมมีความเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงชะลอตัว จึงได้หารือเรื่องอุปสรรคการส่งออกสินค้า 20 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งต้องหากลยุทธ์เพิ่มการส่งออก นอกจากนี้ มีข้อเสนอให้รัฐบาลเน้นส่งเสริมการค้าชายแดนบริเวณกัมพูชา ลาว พม่า และมาเลเซีย เพิ่ม Free Zone โดยไม่มีภาระด้านภาษี รวมไปถึงการปรับปรุงกฎระเบียบให้มีความสะดวกมากขึ้นด้วย
นายพยุง ศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาครัฐควรส่งเสริมการค้าชายแดน โดย กกร.จะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่เกิดจากการค้าระหว่างประเทศ จากที่จัดเก็บ 3% ให้เหลือ 0.5-1% เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ส่วนเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของการค้าชายแดนต้องให้คืนได้อย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ
ด้านนายเจน นำชัยศิริ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า สำหรับการประกาศใช้กรอบส่งเสริมการลงทุนใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุน (บีโอไอ) ที่จะมีผลบังคับ 1 มกราคม 2558 กกร.ต้องการให้บีโอไอคงระยะเวลาให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีในกลุ่มของยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และน้ำตาล ให้มีเวลา 5 ปี หรือ 8 ปี หรือแล้วแต่ความเหมาะสม แทนที่จะเหลือเ 3 ปี เป็นเวลาที่สั้นเกินไป
ส่วน เรื่องการประมูลรถโดยสารสาธารณะ NGV จำนวน 3,183 คัน กกร.เห็นว่าการประมูลระบบ อี-อ๊อกชั่น ไม่มีความเหมาะสม ผู้ประกอบการไทยจะไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้มากนัก จึงมีความเห็นว่าองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ควรจะพิจารณาแก้ไขเรื่องนี้ต่อไป