กรมชลประทาน รายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก ล่าสุด (3 ต.ค. 56) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 932 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 96% ของความจุเก็บกักสูงสุด (ที่ระดับ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร) ซี่งกรมชลประทาน ได้มีการพร่องน้ำออกจากเขื่อนป่าสักฯ เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีฝนตกหนักทางตอนบน ในเขตตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพุบรี วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 130 มิลลิเมตร จากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกรมชลประทาน ได้วางมาตรการการพร่องน้ำออกจากเขื่อนเป็นระยะๆ เพื่อลดผลกระทบต่อตัวเขื่อน
ปัจจุบัน กรมชลประทาน จำเป็นต้องพร่องน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในเกณฑ์ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในเกณฑ์ประมาณ 600 – 620 ลูกบาศก์มตรต่อวินาที พร้อมทั้งรับน้ำส่วนหนึ่งเข้าคลองระพีพัฒน์ เพื่อลดยอดน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนมากนัก
กรมชลประทาน โดยสำนักชลประทานที่ 10 จึงได้แจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตจังหวัด สระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้รับทราบข้อมูล และเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะต่อ จากนี้ จึงขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการน้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย
แหล่งข่าวจาก posttoday…